ช่องทางที่เสี่ยงต่อ Pharming และวิธีป้องกัน

สำหรับช่องทางที่เสี่ยงต่อการถูก Pharming และมีการป้องกันได้ดังนี้

1.ใช้งาน Internet Banking หรือพวก E-Banking ต่างๆต้องคอยสังเกตให้ดีว่าข้อมูลในนั้น
มีการปกป้องข้อมูลหรือไม่ ส่วนทางเว็บที่ให้บริการก็ต้องคอยตรวจสอบและหมั่น Update
เช็คดูว่าเว็บไซต์ของตัวเองเสี่ยงต่อการแฮคข้อมูลหรือไม่ ซึ่งจะช่วยป้องกัน และแก้ปัญหานี้
ได้ในระดับหนึ่ง

2.การช็อปปิ้งออนไลน์ ช่องทางนี้เสี่ยงต่อการถูกแฮกข้อมูลบัตรเครดิตมากที่สุด
เพราะเหยื่อจะต้องใส่รายละเอียดต่างๆถึงจะซื้อสินค้าเหล่านั้นได้ ดังนั้น หากต้องการ
จะซื้อสินค้าเหล่านั้นจริงๆ ควรใช้ควรใช้วิธีโอนผ่านธนาคารแทน หรือนัดเจอรับสินค้ากันไปเลย
ในกรณีที่สามารถทำได้ และหมั่นคอย Update ข่าวสารของ Pharming ตามแหล่งข่าวที่เชื่อ
ถือได้อยู่สม่ำเสมอ..

Pharming virus ภัยตัวใหม่

Pharming virus ภัยตัวใหม่ที่อันตรายมากกว่า Phishing virus (ศึกษาได้จากที่นี่)
Pharming virus คือเป็นการแฮคเข้าไปยังเว็บต้นทางของบริษัท ห้างร้าน
ชั้นนำ หรือแม้แต่ ISP ที่เหยื่อใช้งานกันอยู่ จากนั้นก็จะแปลง DSN (Domain Name System)
ซึ่งก็คือชื่อเว็บไซต์ ให้มีหมายเลข IP Address เปลี่ยนที่หมายไปยังเครื่องของเหล่า
แฮคเกอร์ ที่มีหน้าเว็บที่มีข้อมูลเหมือนกับเว็บจริง เพื่อให้เหยื่อหลงกรอกข้อมูล ต่างๆ
ที่สำคัญลงไป

หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ การสร้างจุด Hotspot ปลอมขึ้นมาแล้วดักจับข้อมูล เช่นหากเรา
ต้องการใช้งาน Notbook Netbook ภายนอกสถานที่ แล้วต้องการใช้จุด Hotspot
ที่มีการปล่อยสัญญาญ Wifi คนร้ายอาจสร้างจุด Hotspot ปลอมขึ้นมาแล้วปล่อยสัญญาญแรง
ให้เยื่อหลงไปใช้งาน และเมื่อไหร่ ที่มีการเชื่อมต่อสัญญาญ ก็จะมีหน้าเว็บไซต์ เหมือนกับ ISP จริง
จากนั้นก็คอยเก็บข้อมูลสำคัญๆ ตอนที่เหยื่อหลงกรอกข้อมูลสมัครใช้งาน เอาไปใช้งานอีกทีหนึ่ง
ซึ่งตรงส่วนนี้อันตรายมาก  ส่วนความเสี่ยงและวิธีการป้องกันดูได้ที่นี่

ประเภทของ Phishing virus

ประเภทของ Phishing virus เราแบ่งออกได้ดังนี้
1.แบบสร้างลิงค์ หลอกไปยังเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อหลงกรอกข้อมูล
2.แบบรูปภาพแล้วทำลิงค์ ไปยังเว็บไซต์ เพื่อหลบหลีกโปรแกรม ทีใช้กรอกข้อมูล
ต่างๆลงไปเพื่อสมัคร แล้วจึงจะเข้าไปยังเว็บไซต์นั้นได้
3.แบบโทรศัพท์มาหาเหยื่อ ลักษณะแบบนี้จะแอบอ้างมาว่า ในช่วงเวลานี้เหยื่ออาจไม่
สามารถเข้าไปยังเว็บที่ตัวเองต้องทำธุรกรรมต่างๆได้ แต่ถ้าหากต้องการใช้งานนั้น
ก็เพียงแต่บอกกับเจ้าหน้าที่ที่โทรศัพท์มาหา แล้วให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลของตนไป
ก็จะใช้งานได้ตามปกติ

การป้องกันการโดน Phishing virus
1.ใช้โปรแกรมกรองข้อมูลจากในบราวเซอร์เวอร์ชันใหม่ๆของ IE และ Mozilla Firefox
2.สังเกตว่าเว็บนั้นมีสัญลักษณ์ ของการป้องกันและรักษาความปลอดภัย ของข้อมูลหรือไม่
3.คอยติดตามข่าวคราวของเรื่องการโดน Phishing virus อย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเหล่าไวรัส
มีการพัฒนาตัวเองอยูตลอดเวลา ส่วนข้อมูลของ Phishing virus คลิกตามนี้ครับ

Phishing virus

Phishing คือการปลอมแปลงอีเมลจากเหล่าแฮคเกอร์ โดยจะทำให้เหมือนว่า ถูกส่งมาจากเว็บไซต์
ที่ทำธุรกรรมด้านค้าขายทางอินเทอร์เน็ต เว็บประมูลซื้ขายของออนไลน์ ธนาคาร และ
แหล่งสินเชื่อ บัตรเครดิตต่างๆ เช่น Citybank Ebay Paypal ลักษณะการหลองลวง
ได้แก่ ส่งอีเมลไปตามเหล่าสมาชิค หรือลูกค้าเหล่านั้น รวมถึงส่งข้อความมาทาง
Messenger เป็น ลิงค์ให้เข้าไปยังเว็บหลอก ที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับเว็บจริง

เพื่อให้เหยื่อหลงกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น User name Password หมายเลขบัตรเครดิต
ต่างๆ ที่นี้เมื่อเหยื่อกรอกข้อมูล ลงไปแล้ว พวกแฮคเกอร์ ก็จะนำ ข้อมูลเหล่านั้นไปใช้
หาผลประโยชน์ ต่ออีกที ทำให้ความเสียหายตกอยู่กับเจ้าของข้อมูล เหล่านั้น ซึ่ง
พฤติกรรมเหล่านี้ก็คล้าย กับการอ่อยเหยื่อตกปลาโดยหวังให้ปลามาฮุบเหยื่อไปกิน
และนี่เป็นสาเหตุ ว่าทำไมถึงได้ชื่อว่า Phishing นั่นเอง ซึ่งประเภทของ Phishing เข้า
ไปดูตามนี้ครับ

Hoax virus

Hoax virus คือภัยหลอกลวงที่ยากต่อการป้องกัน เพราะส่งผ่านต่อมาทางอีเมล โดยมาก
มักจะถูกอ้างอิง ว่ามาจากแหล่งข่าว หรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ เช่น CNN หรือ microsoft

คอยแจ้งข่าวหลอกลวงต่างๆ ถ้าผู้รับไม่พิจารณาให้ดีก่อน ก็อาจทำตามคำแนะนำเผลอลบ
ไฟล์สำคัญๆทิ้งไป ก็จะทำให้ใช้งาน Windows ไม่ได้ หรือไม่ก็แกล้งส่งอีเมล ที่มีข้อความ
ว่า เมื่อคุณเปิดอ่านข้อมูลต่างๆ ในเครื่องจะถูกลบทิ้งไปหมด หลังจากที่อ่านอีเมลนี้จบ
ทำให้คนตื่นตระหนกตกใจกันเล่นๆเป็นต้น..

Dialer อีกตัวในตระกูลMalware

Dialer

เป็นโปรแกรมที่สั่งงานให้ Modem หรือ Router ของคุณ แทนที่จะติดต่อไปยัง ISP
ที่ใช้งานอยู่ภายในประเทศกลับถูกต่อสายไปยังต่างประเทศแทนโดยที่เราไม่รู้ตัว
ทีนี้พอถึงสิ้นเดือน บิลค่าโทรศัพท์ มาก็กลายเป็นการเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์
ไปต่างประเทศแทนทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมาก

Malware โปรแกรมมุ่งร้ายอื่นๆ

โปรแกรมมุ่งร้ายตัวอื่นๆของ Malware
Malware มีรากศัพท์มาจาก Malicious Software ก็คือ พวกโปรแกรมมุ่งร้ายที่สร้างขึ้นมาโดยมุ่งหวังทำลายทั้ง Software โปรแกรม และ ระบบปฎิบัตการ ได้แก่ ไวรัส หนอนอินเทอร์เน็ต และม้าไม้โทรจัน
ดังที่ได้กล่าวมา นอกจากนี้ยังมีตัวอื่นๆอีกดังนี้

Backdoors Programs
 เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่คลายลอ็คและเปิดทางระบบรักษาความปลอดภัยในเครื่อง
เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาควบคุมเครื่องของคุณได้ผ่านทาง Remote Desktop Connection

ส่วนใหญ่แฮคเกอร์จะฝังโปรแกรมประเภทนี้มากับ Sofware เถื่อนทั้งหลาย

Trojan Horse

Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่อันตรายมากอีกตัวหนึ่ง ทำเหมือนกับโปรแกรมที่หวังดี
แต่แอบประสงค์ร้ายต่างจากไวรัส ที่Trojan เป็นเหมือนกับพาหะนำโรค วันดีคืนดีก็แอบเจาะ
และเปิดช่องโหว่ ระบบรักษาความปลอดภัยดัวยการแอบจดจำรหัสผ่านต่างๆ เชื้อเชิญให้พวกเหล่า
แฮกเกอร์เข้ามาล้วงข้อมูลในเครื่องออกไป

ถ้าอาการหนักหน่อย ไปเจอเอาโปรแกรมที่มุ่งหวังทำลาย ข้อมูลในเครื่อง ก็เตรียมโบกมือลา
Windowsที่คุณใช้งานอยู่ได้เลย แหล่งกบดานที่พวกนี้หลบอยู่ ก็ตามพวกเว็บโป๊ ถ้าเผลอหลงเข้าไป
แล้วไม่ระวังให้ดีล่ะก็ได้Trojan มาเป็นของแถมฟรีแน่นอน และอีกที่ก็มาจากพวก Forward mail
ที่คนเขียนโปรแกรม แอบส่งไฟล์ต่อผู้อื่น

วิธีป้องกันทำได้โดยหากเราไม่รู้จัก ผู้ส่งก็อย่าเผลอไปอ่าน ให้รีบทิ้งออกจาก inbox ให้เร็วที่สุด
และอย่าเผลอไปส่งต่อให้คนอื่น

ส่วนที่มาของคำว่า Trojan Hose นั้นก็มาจากตำนานม้าไม้แห่งกรุงทรอย ที่ทหารกรีกแกล้งส่งม้าไม้
ให้กับกรุงทรอยเพื่อเป็นของบรรณาการ เพราะเห็นว่าไม่สามารถตีให้เมืองแตกได้ ชาวเมือง
เมื่อได้รับเอาไว้ก็ฉลองกันเสียใหญ่โต พอตกดึกทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ก็ออกมาจากที่ซ่อน
และแอบมาเปิดประตู ให้พวกที่แอบอยู่ข้างนอกเข้ามาโจมตีทำให้สามารถตี
กรุงทรอยแตกได้ เพราะภัยของม้าไม้ Trojan นั่นเอง

Worm หรือหนอนอินเทอร์เน็ต

จะแตกต่างจากพวกไวรัสตรงที่สามารถแทรกซึมไปยังเครื่องต่างๆ ที่อยู่ในระบบเครือข่าย

ขององกรณ์ ได้ด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องอาศัยการติดตั้งไปกับไฟล์โปรแกรมอื่น
และเมื่อถูกพวกหนอนอินเทอร์เน็ตโจมตีแล้วอาจทำให้ระบบเครือข่ายนั้นส่งข้อมูลกันได้ช้าลง
หรือทำให้ระบบนั้นล่มไม่สามารถติดต่อกันได้เลย ส่วนข้อมูลของไวรัส ตัวอื่น ดูได้ที่นี่

ความเสี่ยงต่อการถูกสปายแวร์โจมตีและวิธีป้องกัน

ช่องทางที่เสี่ยงต่อการถูกสปายแวร์โจมตีและวิธีป้องกัน
สำหรับช่องทางที่คุณอาจถูกเหล่าสปายแวร์โจมตีได้นั้นมีหลายช่องทางด้วยกัน
แต่เราควรหาวิธีป้องกันไว้ก่อน ดังนี้
ในตอนติดตั้งโปรแกรมใหม่ลงในเครื่อง อาจมีขั้นตอนหลอกให้คุณเผลอเลือกให้สปายแวร์
นั้นติดตั้งและทำงานได้ ดังนั้น วิธีแก้ที่ดีก็คือ คุณควรจะอ่านรายละเอียดต่างๆในแต่ละขั้นตอน
ของการติดตั้งโปรแกรมให้ดี ก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้เบาบางลง

เดี๋ยวนี้มีสปายแวร์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น ในขณะที่คุณท่องเว็บอยู่นั้นอาจจะโดนสปายแวร์
สั่งให้ Mouse ไปคลิกที่พวกแบนเนอร์ต่างๆ ได้โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งก็ทำให้เปิดหน้าเว็บที่เพียงแค่เปิดเข้าไป
ก็อาจเจอไวรัสที่เป็นรูปภาพ หรือหลอกให้ติดเอตให้โปรแกรมป้องกันรู้จักสปายแวร์ตัวใหม่ๆ นอกจากนี้
ก็อย่าลืมอัพเดทโปรแกรมบราวเซอร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย เพราะส่วนมากมักจะมีการพัฒนา
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยในการท่องเน็ตมาให้ด้วย
ส่วนช่องทางในการแพร่กระจาย ดูได้ที่นี่

สปายแวร์หรือ Adware

เป็นโปรแกรมที่เหมือนกับสายลับฝังตัวอยู่ในคอมพิวเตอร์ สร้างขึ้นมาเพื่อมุ่งหวัง
คอยแอบดูพฤติกรรมของเจ้าของเครื่องโดยมากมักจะแฝงตังมากับขณะที่คลิกปุ่ม
ติดตั้งโปรแกรมใหม่ หากผู้ติดตั้งไม่ทันสังเกตให้ดีโดยคลิกปุ่ม Nex ไปเรื่อยๆ
จนเสร็จขั้นตอน สปายแวร์ตัวนั้นก็จะถูก ติดตั้งลงไปโดยเราไม่รู้ตัว ซึ่งจะมีอาการต่างๆ
ที่แสดงออกมา เช่น ขึ้นป๊อบอัพโฆษณาขายสินค้าตอนที่ท่องเน็ตอยู่ แสดงเว็บโป๊
เชิญชวนให้เราเข้าไปดู

หรือในขณะที่ใชโปรแกรมอยู่มีหน้าต่างโฆษณาขายสินค้า ฝังอยูในตัวโปรแกรม อาการหนักหน่อย
ก็แอบดักจับ การกดคีย์บอร์ดเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญในเครื่อง เช่น รหัสส่วนตัว
พวกข้อมูลในบัตรเครดิตต่างๆ รวมถึงบางที่ช่องกรอกข้อมูล ในแบบฟร์อมคีย์ภาษาไทยไม่ได้อีก

นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังรวมถึงพวกไฟล์คุกกี้ ที่โปรแกรมบราวเซอร์ใช้เก็บข้อมูล
พวกรหัสหมาชิกหรือข้อมูลบางอย่างในเว็บมาเก็บลงในเครื่องเพื่อให้เรียกดูข้อมูลได้เร็วขึ้น
นั้น ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้พวกมิจฉาชีพใช้แอบดักและติดตามร่องรอย
ในการท่องเว็บของเราได้เหมือนกัน ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณ(Privacy)ถูกเปิดเผยออกมาทำให้
เสี่ยงต่อการแฮค ข้อมูลได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ช่องทางในการแพร่กระจาย

สำหรับช่องทางในการแพร่กระจายนั้นมีหลายวิธี ดังต่อไปนี้
ติดกับไฟล์ที่ลงท้ายด้วย exe. ก็คือ ไฟล์ที่ใช้รันโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาใช้งานเองเช่น Word.exe,Excel.exe
โดยในขณะที่เปิดไฟล์เอกสารที่ติดไวรัสขึ้นมาทำงาน ไวรัสก็จะแพร่กระจายไปยังไฟล์อื่นๆ
ที่อยู่ในเครื่องหรือคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นที่อยู่ในระบบเครือข่าย

ติดต่อทางInternet

ผ่านทางเว็บไซต์ ที่มักให้เราต้องการติดตั้งโปรแกรมบางอย่าง ถึงจะเข้าไปดูข้อมูลได้

การสนทนาออนไลน์ ผ่านทางโปรแกรมพวก Msn โอยมากที่พบจะเป็นไฟล์พวก Image. Jpg.

ที่ถูกส่งมาจากคนที่เราไม่รู้จัก หรืออาจเป็นคนรู้จัก ที่เผลอไปรับไฟล์นี้เข้า ก็จะถูกส่งไวรัสต่อไป

ยังผู้อื่นที่มีชื่อที่อยู่ลิสต์โดยไม่รู้ตัว

ผ่านทางการ Download File

จากคนแปลกหน้าหรือไฟล์จากพวกโปรแกรมแชร์ไฟล์ เช่น
Bittorrent ที่เป็นที่นิยมกันมากในขณะนี้

ติดมาทางแผ่น
ไม่ว่าจะเป็นแผ่นโปรแกรมหรือ แผ่นเพลงหรือหนัง รวมถึงผ่านทาง Flash drive ที่นิยมใช้กันอยู่
โดยจะติดไวรัส ได้ง่าย เพราะเรามักจะนำไป Save ไฟล์ต่างๆผ่านทางคอมพิวเตอร์ และNotbook เป็นต้น..

สำหรับวิธีกำจัดไวรัส โดยทั่วไปมีดังนี้
หาโปรแกรมที่ขึ้นชื่อ ทางด้านกำจัดไวรัสมาติดตั้ง ลงในเตื่องสัก สองโปรแกรม
หมั่น Update ตัวโปรแกรมให้รู้จัก ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆอยู่เสมอ
ส่วนชองทางที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจาย ดูได้ที่นี่

Virus Computer คือ

Virus Computer ก็คือโปรแกรมชนิดหนึ่ง ที่มุ่งหวังทำลายข้อมูลต่างๆที่สำคัญ รวมถึงสร้างความ
รำคาญใจให้กับเรา เช่น ทำให้คอมพิวเตอร์ ทำงานช้าลง เปิดโปรแกรมต่างๆ ไม่ได้ เครื่องรีบูต
ตัวเองบ่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้หากไม่ได้ลงโปรแกรมป้องกัน เอาไว้ โดยลักษณะ
การติดไวรัส จะเริ่มจากการทำสำเนาไฟล์ ตัวเอง แล้วแพร่กระจายไปยังไฟล์อึ่นๆ ที่อยู่ในเครื่อง
นอกจากนี้ยังแฝงไปกับไฟล์ที่เราส่งไปทาง internet โดยที่เราไม่รู้ตัวได้อีกด้วย เช่น พวกWorm
หนอนอินเทอร์เน็ต Malware  Trojan Horse  Pharming virus
Phishing virus  Hoax virus  Dialer 
ซึ่งแบ่งตาม ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้

Boot Sector Virus  ไวรัสชนิดนี้จะฝังตัวอยู่ในแผ่นดิสก์เก็ตหรือในฮาร์ดดิสก์ จะทำงานทุกครั้ง
ในตอนที่บูตเครื่องเข้าสู่ Windows ในปัจจุบันเราไม่ค่อยได้พบเห็นไวรัสแบบนี้แล้ว

File Virus ไวรัสชนิดนี้เราจะพบเห็นมากที่สุด ลักษณะการทำงานจะซ่อนตัวเองไปกับโปรแกรมต่างๆ
โดยเมื่อ เปิดโปรแกรมขึ้นมาทำงาน ตัวไวรัสก็จะทำงานไปด้วย แต่เมื่อปิดโปรแกรมลงไปแล้ว ไวรัส
ก็จะยังทำงานอยู่ และคอยดูว่ามีโปรแกรมอื่น เปิดทำงานอยู่หรือไม่ ถ้าเปิดอยู่ก็จะแพร่กระจาย
ติดไปยังโปรแกรมนั้นๆ ด้วย ไฟล์ที่จะติดได้งานก็คือ ไฟล์ที่ลงท้ายด้วย exe. bat. sys. com.เป็นต้น..

Macro Virus เป็นไวรัสที่ติดตั้งไปกับพวก Template ของไฟล์เอกสาร เช่น Word Excel อาศัยเรียก
การทำงานผ่านทางไฟล์เอกสารต้นแบบ เมื่อเราสั่งรันคำสั่งมาโครเมื่อไหร่ ไวรัสเหล่านี้
ก็จะทำงานขึ้นมาทำให้มีผลในการทำงานของคอมพิวเตอร์ของเราครับ สว่นช่องทาง
ของการแพร่กระจายดูได้ ที่นี่

รู้จักภัยคุกคามต่างๆในโลก Cyber

ในโลก Cyber ภัยคุกคามต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องทำความรูจัก เพื่อทำความเข้าใจ และหาทางป้องกัน
หากการใช้Computer ในชีวิตประจำวันของคุณ  ต้องมีกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก Cyber หรือ Internet
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปดูข่าวสารสาระบันเทิงที่ Update ในแต่ละวัน คอยเช็ค Email หรือ Download
 โปรแกรมใหม่ๆ มาติดตั้งลงใน Computer ของคุณ ตลอดการแชร์ขอ้มูลให้ผู้อื่น เป็นต้น
ทั้งนี้เราแทบจะไม่สามารถหลบภัยร้ายต่างๆ ที่คอยคุกคามเครื่อง Computer ของเราได้เลย

ภัยคุกคามต่างๆคือพวก filevirus computer ต่างๆ(ดูได้ที่นี่) ที่อาจติดมากับการเปิดดูข้อความหรือรูปภาพ
ที่แนบมากับอีเมล รวมถึงพฤติกรรมที่ชอบหยิบยืม Flashdrive บันทึกงานหรือแม้กระทั้ง
ในขณะที่ติดตั้งโปรแกรมใหม่ลงในComputer อาจถูกติดตั้งพวก Malware Spyware(ดูได้ที่นี่) ที่คอย
แอบดักจับขอ้มูลในเครื่อง ส่งไปที่เครื่องต้นทาง
โดยที่เราไม่รู้ตัว ตลอดมีการสร้างเว็บไซต์ลวง หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว หรือรหัสผ่านจาก
บัตรเครดิตต่างๆ อาจเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง แล้วยังมีภัยอื่นที่แฝงตัวอยู่รอบๆตัวเราอีก
มากมาย ในช่วงที่ ใช้งาน Internet เอาล่ะเราพอเข้าใจบ้างแล้ว ว่าภัยคุกคามต่างๆในโลก Cyber
นั้นมีอันตรายมากก่วาที่คิด